Mango Art Festival 2023 เทศกาลศิลปะที่อยากชวนทุกคนมาสนุกกับความหลากหลายและค้นพบสิ่งใหม่

Mango Art Festival 2023 เป็นเทศกาลศิลปะประจำปีซึ่งเปิดพื้นที่ให้กับศิลปิน แกลเลอรี่ และแบรนด์ต่าง ๆ ได้แสดงผลงาน ทั้งยังเป็นการส่งเสริมวงการและนำศิลปะไปสู่ผู้ที่สนใจในวงกว้างอีกทางหนึ่งด้วย

เทศกาลศิลปะที่ใช้ชื่อ “มะม่วง” เพื่อแสดงถึงความหลากหลาย ทั้งสายพันธุ์ ลักษณะ สีสันต่าง ๆ เปรียบได้กับศิลปะที่หลากหลายด้วยยุคสมัย รูปแบบ เทคนิค ฯลฯ Mango Art Festival จึงเป็นงานเทศกาลศิลปะที่เปิดโอกาสให้กับผู้สร้างสรรค์งานศิลปะในแต่ละแขนงได้มาเผยแพร่ผลงานให้เป็นที่รู้จัก

ครั้งนี้จะมาในธีม “Rise” อันเป็นสัญลักษณ์ว่า การเริ่มต้นและการค้นพบใหม่ ๆ ยังคงมีอยู่เสมอ ตราบเท่าที่ดวงอาทิตย์ยังขึ้นและตกในทุก ๆ วัน

เช่นเดียวกับเทศกาลในปีนี้ที่เปิดพื้นที่และมอบโอกาสให้กับศิลปินอิสระหรือศิลปินหน้าใหม่ได้มาแสดงผลงานให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังมีเป้าหมายที่จะเปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยการร่วมมือกับและอาร์ตแกลเลอรี่นานาชาติมากกว่าปีก่อน ๆ ด้วย

3 แขนง 4 โซน … ศิลปะดีไซน์และการแสดง

ผู้เข้าร่วมงาน Mango Art Festival 2023 จะได้เปิดประสบการณ์ทางศิลปะอย่างกว้างขวางกับ 3 แขนงหลักคือ ศิลปะ (Art), การออกแบบ (Design) และ การแสดง & ดนตรี (Performance & Music)

พื้นที่ของ Mango Art Festival ถูกแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ โซนแกลเลอรี่(Gallery Zone) โซนศิลปินอิสระ (Independent Artists Zone) โซนออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product Design Zone) และโซนศิลปะหัตถกรรม (Art & Craft Zone) พร้อมด้วยเวทีการแสดงและดนตรี (Performance & Music) ซึ่งแบ่งเป็น

21 แกลเลอรี่ชั้นแนวหน้าทั้งในและต่างประเทศ

75 ศิลปินอิสระ

14 แบรนด์งานออกแบบผลิตภัณฑ์

19 บูธงานศิลปะหัตถกรรม

16 รายการการแสดงและดนตรี

3 ไฮไลท์ชวน Rise ใน Mango Art Festival 2023

พื้นที่เปิดกว้างสำหรับศิลปินอิสระ: เทศกาลมีพื้นที่มากขึ้นสำหรับศิลปินอิสระเมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นการเปิดโอกาสให้ศิลปินหน้าใหม่ได้ขยายขอบเขตการเข้าถึงและนำเสนอผลงาน ทำให้เป็นที่รู้จัก ได้การยอมรับ สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองและเติบโตในอาชีพ ในปัจจุบันศิลปินอิสระรุ่นใหม่ของไทยมีจำนวนมากและต่างมีความสามารถรอบด้าน ซึ่งสามารถสร้างเป็นซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ร่วมขับเคลื่อนวงการศิลปะของไทยได้

การจับคู่ทางศิลปะ: หนึ่งในกิจกรรมหลักของเทศกาลครั้งนี้โดย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) คือ การจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างศิลปิน แกลเลอรี่และแบรนด์ต่างๆ ทั้งไทยและเทศ เพื่อสร้างโอกาสทำงานร่วมกันในอนาคต

นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอนวัตกรรมและแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อและขายงานศิลปะออนไลน์ เพื่อได้ศึกษา ทำความเข้าใจ และทดลองใช้งานจริง โดยผลงานศิลปะทุกชิ้นบนแพลตฟอร์มจะมีความปลอดภัยและการแสดงความเป็นเจ้าของของผลงานศิลปะชิ้นนั้น ๆ

การเข้าร่วมของ Formosa Art Fair จากไต้หวันและแกลเลอรี่นานาชาติ: เทศกาลนี้ยังเป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้เข้าร่วมจากนานาชาติ เช่น Formosa อาร์ทแฟร์ที่มีชื่อเสียงจากไต้หวัน มีการแลกเปลี่ยนกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของจีน ตลอดจนหอศิลป์จากประเทศต่าง ๆ เช่น เยอรมนี จีน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเมียนมาร์ มาร่วมออกบูธ ให้ศิลปิน แกลเลอรี่ ผู้รักงานศิลปะ นักสะสม และคนในวงการได้มาเชื่องโยงกัน นับเป็นการขยายขอบเขตอีเวนต์ทางศิลปะนี้ให้กว้างออกไป

นอกจากนี้แล้วในงานยังมีนิทรรศการพิเศษ เช่น งานศิลปะที่เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) กิจกรรมในงานรวมถึงเวที “ทอล์ค” จากผู้เชี่ยวชาญในวงการศิลปะกับประเด็นที่อยู่ในความสนใจ รวมไปถึงเวทีดีเบตเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ของพรรคการเมืองในนโยบายเกี่ยวกับ “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” การแสดงดนตรี ร้อง เล่น เต้น แฟชั่นโชว์ หรือการแสดงสดศิลปะแขนงต่าง ๆ ซึ่งคัดเลือกมาพิเศษ เป็นต้น